วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

สุสานหุ่นกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ 
  • ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง”  บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น  ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974  โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม. มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้จะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530  ทางการเปิดให้ชมหลุมที่ 1 เมื่อปลายปี ค.ศ. 1979 เป็นหลุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวนทั้งหมดมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 230*62 เมตร ลึก 5 เมตร  เป็นกองทัพหน้า ประกอบด้วยทหารเดิน ทหารม้า และทหารธนู  มีหุ่นทหารกว่า 6,000 คน หน้าตาไม่ซ้ำกันเลยถอดหัวได้  เป็นรูปปั้นดินเผาสูงราว 1.80 เมตร อาวุธส่วนใหญ่ทำมาจากทองสำริด ตัวม้าสูง 1.50 เมตร ยาว 2 เมตร งานละเอียดมากและมีความประณีต เข็มขัดยังทำขอทำรู เสื้อเกราะเหมือนของจริง  คนขับอยู่กลางสองข้างเป็นทหารธนูข้างหลังมีทหารอีก 3 คน หนึ่งในนั้นถือทวนยาว 4 เมตรคอยปัดสิ่งกีดขวาง ที่รถม้ายังเจาะหน้าต่างอีกด้วย
    หลุมที่ 2 มีลักษณะเป็นรูปตัว L มีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตรสำรวจแล้วพบว่ามีหุ่น 1,000 ตัวเศษ
    หลุมที่ 3 มีลักษณะเป็นรูปตัว U มีพื่นที่ 500 ตารางเมตร เปิดให้ชมเมื่อวันท่องเที่ยวสากล คือ 27 กันยายน ค.ศ. 1989  หลุมนี้เป็นหลุมกองบัญชาการระดับนายทหารสำรวจแล้วพบว่ามีหุ่น 68 ตัว รถม้าออกศึก 1 คันกับอาวุธอีกจำนวนหนึ่ง
    โดยเปิดให้ชมเพียงหลุมที่ 1 และ 3  
  • สุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ เรียกว่า “ฉินสื่อหวางหลิง” (หลิง หมายถึง สุสานวรรณะกษัตริย์) โดยทั่วไปจะเรียกย่อๆ ว่า “ฉินหลิง” แต่ไม่ได้บอกว่ามีหุ่นกองทัพขนาดใหญ่ฝังไว้ด้วย หุ่นเหล่านี้จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก  เขาหลีซานห่างจากตัวเมืองซีอานด้านตะวันออกราว 25 กิโลเมตร สุสานฉินสื่อหวาง หรือ สุสานแห่งกองทัพจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้อยู่ทางทิศเหนือของเชิงเขาหลีซาน  จากบันทึกต่างๆ ได้เริ่มโครงการตั้งแต่พระองค์มีพระชนม์ 12 พรรษา คือครั้งเมื่อเป็นเจ้าผู้ครองนครแห่งหนึ่งมาทุ่มเทอย่างจริงจังหลังจากรวบรวมจีนเป็นปึกแผ่น ใช้คนงานถึง 7 แสน 2 หมื่นคน เร่งวันเร่งคืนไม่มีวันหยุด  ภายในสุสานทำเป็นท้องฟ้ามีดาวมีเดือนภาคพื้นดิน มีการสมมุติตรงไหนเป็นภูขา แม่น้ำ มีรายละเอียดมากมาย ใช้เวลาทั้งหมด 36-38 ปี
  • “ฉินสื่อหวางหลิง” เป็นสุสานใต้ดิน มีกำแพงสี่เหลี่ยมล้อรอบ 2 ชั้น หุ่นกองทัพอยู่ถัดจากกำแพงชั้นนอกด้านตะวันออก ประมาณ 3 ลี้ หรือ ประมาณ 1 ไมล์ ห้องเก็บพระศพอยู่ทิศใต้ของส่วนในสุด  ในปลายรัชสมัยของพระองค์สมบัติที่ฝั่งไว้ถูกหัวหน้าปฏิวัติชื่อ เชียงหยู่ ซึ่งเป็นคู่แข่งของหลิวปังปล้นไปส่วนหนึ่ง (หลิวปังได้เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่นซึ่งต่อจากราชวงศ์ฉิน)  ส่วนที่เก็บพระศพยังไม่ได้ขุด ซึ่งดูจากภายนอกเป็นเนินดินสูงใหญ่  ปัจจุบันทำบันได 287 ขั้นเดินไปบนยอดได้ เนินทั้งเนินปลูกทับทิมซึ่งเป็นดอกไม้ประจำเมืองซีอานเต็มไปหมด  กำแพงที่ล้อมรอบห้องเก็บพระศพหนา 20-25 เมตร โลงศพอาจอยู่ลึกลงไป 500 เมตร และจากการเอ็กซ์เรย์ช่วยก็เจอชั้นทองสำริดอีกชั้นหนึ่ง หนามากจึงมีการสันนิษฐานว่ากำแพงของห้องที่เก็บโลงศพอาจจะหุ้มห่อด้วยทองสำริดก็เป็นได้ 
  • มหาสุสานของจักรพรรดิจีน จิ๋นซีฮ่องเต้ (ฉินสื่อหวงตี้) แห่งราชวงศ์ฉิน  อยู่ที่เชิงเขาหลีซัน ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน ปัจจุบันสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1987 และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมืองซีอาน
    ตามประวัติ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้เริ่มก่อสร้างในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร ที่สร้างมาจากดินเผา จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของจิ๋นซีฮ่องเต้
    • โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย 35 เมตร กว้าง 145 เมตร และ ยาว 170 เมตร สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬาร สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้นยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอาไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่

ประวัติศาสตร์กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)


ประเทศจีนที่ซึ่งประวัติศาสตร์และตำนานสอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ จนบางครั้งมันเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกเรื่องจริงออกจากนิทานในดินแดนที่สสารไม่จีรัง เหมือนหมอกยามเช้าในหุบเขาลุ่มแม่น้ำเหลือง กองหินมหึมาที่เรียกว่ากำแพงเมืองจีน โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินทันทีทันใดเหมือนมังกรหลับใหล หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณและโลกปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ของมันถูกห้อมล้อมด้วยเรื่องเล่าขานของเหตุการณ์นองเลือดและความบ้าคลั่ง มันถูกกล่าวว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ยาวที่สุดในโลก มังกรหินขนาดมหึมาที่ขนาดของมันไม่เพียงแต่น่าเกรงขาม แต่ยังเป็นแนวคิดของมันเอง มันเป็นการเปลี่ยนสัญลักษณ์ของความอัปยศ ความขัดแย้งของชาติ เป็นหลักการทางจิตวิทยาและวัฒนธรรมของประเทศจีนสมัยใหม่ด้วย