ออสเตรเลีย (อังกฤษ: Commonwealth
of Australia)
เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย
เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่นๆในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้
ประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียประกอบด้วย อินโดนีเซียปาปัวนิวกินี
และติมอร์ตะวันออกทางเหนือ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู
และนิวแคลิโดเนียทางตะวันออกเฉียงเหนือ
และนิวซีแลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้ชื่อออสเตรเลียมาจากคำในภาษาละตินว่า
australisซึ่งหมายถึงทิศใต้ โดยมีตำนานถึง"ดินแดนทางใต้ที่ไม่รู้จัก" (ละติน: terra
australis incognita)
ชาวยุโรปเริ่มสำรวจค้นพบออสเตรเลียในพุทธศตวรรษที่22และต่อมาจึงกลายเป็นดินแดนอาณานิคมของบริเตนโดยเริ่มต้นเป็นอาณานิคมนักโทษในนิวเซาท์
เวลส์และจึงมีการตั้งอาณานิคมขึ้นอีกห้าแห่งอาณานิคมทั้งหกรวมตัวเป็นสหพันธรัฐในปีพ.ศ.
2444 ออสเตรเลียมีชนพื้นเมืองซึ่งอาศัยตั้งแต่ก่อนชาวยุโรปเข้ามา
เรียกว่าชาวอะบอริจิน
|
|
|
ประวัติศาสตร์ประเทศออสเตรเลีย |
|
|
|
|
|
ชนพื้นเมืองในออสเตรเลียก่อนการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป
คือชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอร์เรสสเทรตซึ่งชนเหล่านี้มีภาษาแตกต่างกันนับร้อยภาษา
ประมาณการว่ามีชาวอะบอริจินมากกว่า 780,000 นอยู่ในออสเตรเลียในปี พ.ศ.
2331การค้นพบออสเตรเลีย ของชาวยุโรปครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้
เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2149เป็นเรือของชาวดัตช์โดยกัปตัน
WillemJanszoonทำแผนที่ชายฝั่งส่วน หนึ่งของออสเตรเลียระหว่างปีพ.ศ. 2149 และ
2313มีเรือของชาวยุโรปประมาณ54ลำจากหลายชาติเดินทางมาที่ออสเตรเลียซึ่งรู้จัก
ในขณะนั้นว่านิวฮอลแลนด์ในปีพ.ศ.2313เจมส์คุกเดินทางมาสำรวจออสเตรเลียและทำแผนที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย
และได้ประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร
ให้ชื่อว่านิวเซาท์เวลส์ต่อมาสหราชอาณา จักรใช้ออสเตรเลียเป็นอาณา
นิคมสำหรับนักโทษ(penalcolony)ฝูงเรือแรก
เดินทางมาถึงออสเตรเลียที่อ่าวซิดนีย์ในปีพ.ศ. 2330 ในวันที่ 26 มกราคม (ค.ศ.
1788)ซึ่งต่อมาเป็นวันออสเตรเลีย
ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกส่วนใหญ่เป็นนักโทษและครอบครัว
ของทหารโดยมีผู้อพยพเสรีเริ่มเข้ามาในปีพ.ศ.2336
มีการตั้งถิ่นฐานบน
|
|
|
|
เกาะแทสเมเนียหรือชื่อในขณะนั้นคือฟานไดเมนส์แลนด์
ในปีพ.ศ. 2346 และตั้งเป็นอาณานิคมแยกอีกแห่งหนึ่งในปีพ.ศ. 2368
สหราชอาณาจักรประกาศสิทธิในฝั่งตะวันตกในปี พ.ศ. 2372
และเริ่มมีการตั้งอาณานิคมแยกขึ้นมาอีกหลายแห่ง ได้แก่เซาท์ออสเตรเลีย วิกตอเรีย
และควีนส์แลนด์ โดยแยกออกมาจากนิวเซาท์เวลส์
เซาท์ออสเตรเลียไม่เคยเป็นอาณานิคมนักโทษ
ในขณะที่วิกตอเรียและเวสเทิร์นออสเตรเลียยอมรับการขนส่งนักโทษภายหลัง
เรือนักโทษลำสุดท้ายมาถึงนิวเซาท์เวลส์ในปี พ.ศ. 2391
หลังจากการรณรงค์ยกเลิกโดยกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานการขนส่งนักโทษยุติอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ.
2396 ในนิวเซาท์เวลส์และแทสเมเนีย และปีพ.ศ. 2411 ในเวสเทิร์นออสเตรเลียปีพ.ศ. 2394
เอดเวิร์ด ฮาร์กรีฟส์ ค้นพบสายแร่ทอง ในที่ๆเขาตั้งชื่อว่าโอฟีร์ (Ophir)
ในนิวเซาท์เวลส์
|
|
|
|
ทำให้เกิดยุคตื่นทองนำคนจำนวนมากเดินทางมาออสเตรเลียในปีพ.ศ.2444หกอาณานิ
คมในออสเตรเลียรวมตัวกันเป็นสหพันธรัฐในชื่อเครือรัฐ
ออสเตรเลีย (Common wealth of
Australia)ประกอบด้วยรัฐนิวเซาท์เวลส์รัฐวิกตอเรียรัฐควีนส์แลนด์รัฐเซาท์ออสเตร
เลีย
รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและรัฐแทสเมเนียรวมหกรัฐเข้าอยู่ภายใต้
รัฐธรรมนูญหนึ่งเดียว เฟเดอรัล
แคพิทัลเทร์ริทอรีก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2454เป็นเมืองหลวงของ สหพันธรัฐ
จากส่วนหนึ่งของรัฐนิว เซาท์ เวลส์บริเวณแยส-แคนเบอร์ราและเริ่มดำเนิน
งานรัฐสภาในแคน เบอร์รา ในปีพ.ศ. 2470 ในปีพ.ศ. 2454นอร์เทิร์นเทร์ริ ทอรี
แยกตัวออกมาจากเซาท์ออสเตรเลียและเข้าเป็นดินแดนในกำกับของสหพันธ์
ออสเตรเลียสมัครใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่งโดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมถึง60,000
คนจากประชากรชายน้อยกว่าสามล้านคนออสเตรเลียประกาศใช้บทกฎหมายเวสต์มินสเตอร์
คริสต์ศักราช 1931(พ.ศ. 2474) ในปีพ.ศ. 2485โดยมีผลบังคับใช้ย้อนไปตั้งแต่
3กันยายนพ.ศ.2482ซึ่งเป็นการยุติบทบาทนิติบัญญัติของสหราชอาณาจักรในออสเตรเลียเกือบทั้งหมดในสงคราม
โลกครั้งที่สองออสเตรเลียประกาศสงครามกับ
|
|
|
|
เยอรมนีพร้อมกับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสหลังจากเยอรมนีบุกโปแลนด์
ออสเตรเลีย ส่งทหารเข้าร่วมสมรภูมิในยุโรปเมดิเตอร์เร
เนียนและแอฟริกาเหนือแผ่นดินออสเตรเลีย
โดนโจมตีโดยตรงครั้งแรกจากการเข้าตีโฉบฉวยทางอากาศของญี่ปุ่น
ที่ดาร์วินออสเตรเลียยุตินโยบายออสเตรเลียขาวโดยดำเนินการขั้นสุดท้ายในปีพ.ศ.2516พระราชบัญญัติออสเตรเลียคริสต์ศักราช1986(พ.ศ.2529)ยกเลิกบทบาทของสหราชอาณาจักรในอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการของ
ออสเตรเลีย โดยสิ้นเชิงในปีพ.ศ.2542 ออสเตรเลีย
จัดการลงประชามติว่าจะให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีแต่งตั้งจากรัฐสภาหรือไม่ซึ่งคะแนนเสียงเกือบ55%ลงคะแนนปฏิเสธ
|
|
|
|
วัฒนธรรมและประชากรประเทศออสเตรเลีย |
|
|
|
|
วัฒนธรรมของออสเตรเลียมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมตะวันตก
โดยเฉพาะแบบอังกฤษหรือแองโกล-เคลติกแต่ก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งพัฒนามาจากสภาพแวดล้อมและชนพื้นเมืองในระยะหลัง
วัฒนธรรมของออสเตรเลียยังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอเมริกันประเทศ
ออสเตรเลียมีประชากรทั้งหมด 19ล้านคน
ส่วนมากอทศัยอยู่ทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้
และในแทสมาเนียซึ่งประมาณ85%ของประชากรทั้งหมดอาศัยอยู่ใกล้หรืติดชายฝั่งทะเลชาวออสเตรเลีย
ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการและดำเนินชีวิตแบบตะวันตกประเทศออสเตรเลีย
เปรียบเสมือนบ้านของคนจาดทั่วทุกมุมโลกประชากรประมาณ1ใน5ของประชากรทั้งหมด
ที่อาศัยในประเทศออสเตรเลียเป็นชาวต่างชาติ
ทั้งจากเอเชียยุโรปอังกฤษและ อเมริกา
ปัจจุบันนี้ประเทศออสเตรเลียได้มีการติด
ต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอย่างใกล้ชิดประชากรพื้นเมืองของออสเตรเลีย
ได้แก่ชาวอะบอริจินบนแผ่นดินหลักและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสซึ่งมีทั้งหมด 410,003คน
ในปีพ.ศ.2544 (ร้อยละ 2.2 ของประชากร)
|
|
|
|
สภาพภูมิอากาศประเทศออสเตรเลีย |
|
|
|
|
สภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียแตกต่างกันในแต่ละรัฐ
สภาพอากาศทั่วไปจะเป็นแบบเขตร้อนจนถึงเขตอบอุ่น
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ทัสเมเนียประมาณ 11-12 องศาเซลเซียส
และร้อนสุดที่มณฑลตอนเหนือประมาณ 34 องศาเซลเซียส -ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน -
พฤศจิกายน อากาศดี ดอกไม้บานสวยงาม -ฤดูร้อนธันวาคม – กุมภาพันธ์
อากาศร้อนและแห้งแล้ง บางแห่งร้อนจัด -ฤดูใบไม้ร่วงมีนาคม – พฤษภาคม
อากาศเริ่มเย็นลงตามเมืองชายฝั่งทางตอนใต้และเมืองในเขตป่าฝนจะตกชุก -ฤดูหนาวมิถุนายน
– สิงหาคม อากาศเย็นจัด มีหิมะตกบนเขตภูเขาสูงโดยทั่วไป
ตลอดทั้งปีออสเตรเลียจะมีท้องฟ้าใสและแดดแรง
โดยเฉพาะตามเมืองชายทะเลและเมืองในแถบทะเลทราย
จึงควรป้องกันการถูกแดดเผาโดยการใส่หมวกปีกกว้างและทาครีมกันแดดเสมอ |
|
|
|
|
ภาษาอังกฤษ |
|
|
|
|
สกุลเงินออสเตรเลียใช้หน่วยเงินเป็นดอลล่าร์ออสเตรเลีย
(100เซ็นต์จะเท่ากับ1ดอลล่าร์) ธนบัตรจะมีตั้งแต่ 100 , 50 , 20 , 10 และ 5
ดอลล่าร์ ส่วนเหรียญจะมีตั้งแต่ 5 , 10 , 20 ,50 เซ็นต์ 1 และ 2 ดอลล่าร์
บริการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
จะมีให้บริการที่สนามบินระหว่างประเทศแก่ทุกเที่ยวบินที่เดินทางเข้าและออก
ประเทศและการแลกเปลี่ยนเงินตราหรือการแลกเช็คเดินทางสามารถทำได้อย่างรวดเร็วได้ที่ธนาคารส่วนใหญ่ในประเทศ
บัตรเอทีเอ็มสามารถใช้ได้ในประเทศได้ที่ตู้เอทีเอ็มทุกๆแห่งบัตรเอทีเอ็มของประเทศอื่นๆก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
การจะเป็นเจ้าของ บัตรจะต้องใช้ระหัสประจำตัว(Personal Identification Number หรือ
PIN) ในการเข้าใช้บริการหรือกดเงินสด
ซึ่งเจ้าของบัตรสามารถติดต่อขอข้อมูลสำหรับบริการต่างๆและค่าธรรมเนียม
ของการใช้บัตรจากธนาคารเจ้าของบัตรได้
|
|
|
|
|
กฎหมายของออสเตรเลียได้ระบุไว้อย่างเข้มงวดว่าห้ามนำยาเสพย์ติด
อาวุธต่างๆ ,ปืน และสิ่งของอื่นๆ ที่มีการระบุว่าห้ามนำเข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพย์ติดซึ่งกฎหมายจะเข้มงวดเป็นพิเศษห้ามนำเข้าขนสัตว์
หนังสัตว์ งาช้างและอวัยวะอื่นของสัตว์และนกประเภทต่างๆ
นักท่องเที่ยวห้ามนำอาหารและพืชชนิดต่างๆเข้ามาในออสเตรเลีย
หรือถ้ามีจะต้องแจ้งไว้ในบัตรผู้เดินทางขาเข้าประเทศและต้องนำกระเป๋าเดินทางไปแสดงที่ช่องตรวจสีแดงเพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาหารและพืชที่นำ
เข้ามาในประเทศและถ้าตรวจสอบแล้วว่าไม่มีผลเสียใดๆก็จะได้รับคืนสำหรับที่ตรวจสอบแล้วไม่ผ่านจะต้องส่ง
กลับประเทศ
|
|
|
|
เมืองน่าเที่ยวประเทศออสเตรเลีย |
|
|
|
|
|
Sydney
ซิดนี่ย์ Sydney
New South Wales (NSW) มี Sydney
เป็นเมืองหลวง
เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดและเป็นเมืองที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย
มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาด
และความหลากหลายของวัฒนธรรม
|
|
|
|
|
|
|
Melbourne เมลเบิร์น
Victoria (VIC) มี Melbourne
เป็นเมืองหลวงเป็นเมืองที่ทั่วโลกรู้จักในเรื่องของวัฒนธรรมและความผสมผสานทางศิลปะบ่อยครั้งที่ถูกเปรียบเทียบกับยุโรปในเรื่องของสถาปัตยกรรมและวิธีการ
|
|
|
|
|
|
|
Brisbane บริสเบน
Queensland (QLD) มี Brisbane
เป็นเมืองหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งของชาวออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
มีอากาศที่ดี Great Barrier Reef
เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก
|
|
|
|
|
|
|
Perth เพิร์ท
เพิร์ธ Western Australia (WA) มี
Perth เป็นเมืองหลวง เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด แต่มีประชากรเพียงแค่
8% อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุประมาณ 25% GDP |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น